เที่ยวทะเล ชมอ่าว สู้ศึกคึกคัก ศิลปะเมืองประจวบคีรีขันธ์
ผมเป็นคนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แต่ทำงานอยู่คนละอำเภอกัน จะกลับบ้านก็แค่วันเสาร์ - อาทิตย์ ซึ่งเมื่อกลับไปบ้านก็ไม่ค่อยจะได้ออกไปไหน จะมีบ้างก็ออกไปถนนคนเดินในช่วงเย็นวันศุกร์ และวันเสาร์ จนเมื่อวานซึ่งเป็นวันอาทิตย์ ที่ 2 กรกฎาคม 2560 เราได้โทรหาลูกค้าเพื่อจะนัดคุยงานกัน ลูกค้าบอกว่าตอนนี้กำลังอยู่ที่งานสู้ศึกคึกคัก เราก็งง เห้ยงานอะไรว่ะ สู้ศึกคึกคักเนี่ย ไม่เคยได้ยินมาก่อน เลยนัดเจอลูกค้าที่งานซะเลย พอมาถึงปั๊บปรากฎว่ามันคืองาน "ถนนสายวัฒนธรรมสู้ศึก คึกคัก" พอมาถึงปั๊บ เห้ย บรรยากาศมันโดนอะ

บริเวณเส้นประสีน้ำเงินคือส่วนของบริเวณที่จัดงานทั้งหมดครับ โดยผมได้จอดรถไว้ที่ลานจอดรถของวัดเกาะหลัก เสร็จแล้วก็เดินเข้าซอยไปประมาณ 2-3 ร้อยเมตร ก็จะเข้าสู่ถนนสายวัฒนธรรมสู้ศึก คึกคัก แต่เดี๋ยวก่อน บางคนอาจสงสัยว่าทำไมถนนเส้นนี้ถึงได้มีชื่อที่น่ากลัวจังเลย จริงๆแล้วเดิมถนนเส้นนี้ชื่อว่าถนนสู้ศึก เมื่อเล่าความย้อนไปในสมัยสงครามมหาเอเชียบูรพา ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่น 3 กองพันยกพลขึ้นบกที่อ่าวมะนาว เมืองประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2484 ถูกต่อต้านจากทหารไทย ชาวบ้าน แม้กระทั่งกลุ่มเยาวชนลูกเสือ ดินแดนแห่งนี้จึงกลายเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์
ถนนสายต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองประจวบฯ จึงถูกตั้งชื่อขึ้นเทิดเกียรติแก่ผู้สละชีวิตเพื่อชาติ เช่น ถนนสุขใจ ถนนมหาราช ถนนพิทักษ์ชาติ ถนนสละชีพ
และที่สำคัญถนนคู่ขนานใกล้ชายหาด เรียกว่า "ถนนสู้ศึก" เป็นซึ่งแนวต้านทัพญี่ปุ่นไม่ให้ยกพลขึ้นบก ยาวตั้งแต่ริมเขาช่องกระจกไปจรดประตูกองบิน 5 ระยะทาง 1.5 ก.ม.
สภาพบ้านไม้เก่าแก่ตกทอดกันมารุ่นสู่รุ่น กลายเป็นสิ่งคู่บ้านคู่เมืองควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ ผู้คนส่วนใหญ่ทำประมง และค้าขาย มีวัฒนธรรมการกินเป็นลักษณะเฉพาะท้องถิ่น อาทิ อาหารสำหรับกินเล่นชื่อ "จับหลัก" ลักษณะเหมือนห่อหมกปลาทะเลที่นำมาปั้นติดกับไม้แล้วนำไปย่าง หรือ "แกงเหม็ง" แกงกะลามะพร้าวอ่อน
ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมบ้านเก่าที่อยู่บนถนนสู้ศึกกันมากยิ่งขึ้น ชาวบ้านส่วนหนึ่งจึงหันมาประกอบอาชีพด้านการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นร้านเช่ารถจักรยาน รถจักรยานยนต์ ขับชมวิวทิวทัศน์ต่างๆ ของอ่าวประจวบ ซึ่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์จะมีด้วยกัน 3 อ่าวคืออ่าวประจวบฯ อ่าวมะนาว อ่าวน้อย พื้นที่ยอดนิยมต่างๆได้แก่ เขาช่องกระจก เขาล้อมหมวก รวมทั้งรับประทานอาหารทะเลสด ราคาถูก และมีชายทะเลและชายหาดเหมาะกับการพักผ่อนเป็นยิ่งนัก
โอ้ย ลากออกน้ำทะเลไปซะไกลเลย กลับมาชมบรรยากาศกันต่อเลยนะครับ
ชอบรูปจักรยานเก่าคันนี้มากๆเลย ถ้าสังเกตุดีๆ ตรงบริเวณที่นั่งคนซ้อนจะมีจักรยานแบบเดียวกัน แต่เป็นคันเล็กๆ วางไว้อยู่ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปกัน
เดินผ่านจักรยานมาหน่อยนึงก็พบกับบรรยากาศคนคึกคักมากๆ ขนาดว่าวันที่ผมมาเดินเนี่ยเป็นวันอาทิตย์นะ
เพื่อนบอกว่า วันเสาร์นะ คนเยอะกว่าอีก ของก็ขายเยอะกว่า
บรรยากาศโดยรวมก็จะเป็นบ้านไม้หลังคาสังกระสี แบบดั้งเดิม
ตอนกลางคืนนะ ไฟสวยมาก พร้อมด้วยนักท่องเที่ยวและแม่ค้าที่แต่งตัวใส่ชุดไทยๆ เดินกันเยอะแยะมากมาย

บ้านนี้ขายหมวกครับ โดยหมวกที่ขายก็จะเป็นหมวกทำมือ เสร็จแล้วก็นำมาห้อยด้วยเชือก ก็เก๋ๆไปอีกแบบนะ ทรงหมวกก็เข้ากับบรรยากาศของงานดีครับ
บ้านเก่าๆ หลายๆ หลังก็จะเปิดบ้าน มีการจัดไฟ แสง สี ในบ้านด้วยนะ บรรยากาศจริงๆ สวยมาก
อันนี้น่าจะเป็นวันแรกของการเปิดงานนะครับ มีการแสดงเต้นรำด้วย
เจอเด็กน้อยใส่ชุดไทยๆ น่ารักมากๆ
เด็กน้อยใหญ่ร่วมกันประดิษฐ์ดอกไม้ถวายพ่อด้วยครับ ใครอยากทำก็มาทำได้เลยนะครับ

มีศิลปินมาปั้นทรายไว้ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปด้วยนะครับ
ร้านนี้ขายของเล่นเด็กสมัยโบราณ
บ้านหลังนี้ก็พีคมาก เปิดบ้านพร้อมแต่งเติมแสงสี และจิตกรรมต่างๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวไปนั่งถ่ายรูปได้
แนะนำเลย ให้ใส่ชุดไทยๆ มาด้วยจะเข้ากับบรรยากาศมาก
เดินมาอีกหน่อยก็เจอการแสดงเปิดหมวกต่างๆ
เหล่านักแสดงนั่งเก็บตัวรอแสดงรอบต่อไป
คนเฒ่า ผู้แก่ก็ได้ออกมาคลายเครียดกันครับ โดยคุณตาสีซอ คุณยายตีขิม
มีเวทีการประกวดการแสดงดนตรีไทยของเด็กๆด้วย
นางรำแสดงเปิดหมวกกลางถนนเลยครับ
น้องนักเรียนคนนี้ก็มาแสดงดนตรีเปิดหมวกเช่นกันครับ

กลุ่มนักดนตรีไทยผสมเปิดหมวกครับ โดยมีน้องตัวเล็กเสื้อสีฟ้านั่งเล่นคาฮองอยู่ น้องยิ้มเก่งมาก อย่างกะสตาฟหน้าเอาไว้เลย
บรรยากาศร้านขายของกันบ้างครับ
ร้านนี้เป็นร้านขายพวงมาลัยมะกรูดใบเตยครับ เป็นผลงานของโรงเรียนเทศบาลบ้านค่ายครับ ใครแวะผ่านมาเจออย่าลืมอุดหนุนน้องๆหน่อยนะครับ
ร้านขายลูกชุบ แม่ค้าห่มสไบมาเลยครับ
ร้านขายเสื้อผ้าถักมือ
สำนักงานการศึกษานอกระบบก็นำรถบัสบรรจุหนังสือมาจอดให้ผู้ที่รักการอ่าน ได้อ่านหนังสือกันฟรีๆ ด้วย
เดินมาพบร้านขายรูปของพ่อหลวง พอใส่กรอบแล้วสวยมากๆ เลย
ร้านขายหมวกครับ แม่ค้านั่งบนแคร่ เข้ากับบรรยากาศมากๆ
ร้านนี้ก็ขายขนมโบราณเหมือนกันครับ
ร้านห่อหมกปลาครับ
แม่ค้าร้านนี้จัดเต็มมาเลยครับ
ร้านส่วนใหญ่ของที่นี่จะขายขนมโบราณหน่อยๆ หาทานยากนะครับ
ร้านสับปรดหอมสุวรรณปั่น พ่อค้าแม่ค้าแต่งเต็มมาเลยครับร้านนี้
ร้านขายข้าวเหนียวเหลืองครับ ปกติแล้วเราจะได้กินกันแค่ตามงานต่างๆเน้อ

นี่ไง ร้านพวงมาลัยของเด็กๆ
งบปลาร้านนี้แซบอยู่
ร้านขนมหวานของโปรดของสายหวาน
ผลไม้ประจำท้องถิ่นก็มีนะ
ร้านนี้ทีแรกคนมุงกันเยอะมาก เลยเข้าไปดู ปรากฎว่าขายผ้ามัดย้อมครับ สวยดี
ผัดไทยร้านนี้ถือว่าเด็ดมาก อยากกินทีไรก็ต้องมาซื้อร้านนี้ตลอด
โดยรวมถือว่าตื่นตาตื่นใจดีครับ เพราะนอกจากจะได้เดินถ่ายรูป ดูโน่นนี่สนุกสนานแล้ว ชาวบ้าน คนเฒ่าคนแก่ ก็ได้มีกิจกรรมดีๆทำในวัยหลังเกษียณอีกด้วยครับ
น่าเที่ยวมากเลยค่ะ ไม่เคยไปเที่ยวประจวบมาก่อนเลย เสียดายจังไม่ได้ไปเที่ยวดูงานนี้
ตอบลบ